ในการเลือกเครื่องพิมพ์ฉลากหรือเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด สิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้าม คือ เทคโนโลยีการพิมพ์ ที่ใช้ เพราะการเลือกระบบการพิมพ์ให้เหมาะกับลักษณะงาน ไม่เพียงช่วยให้ได้งานพิมพ์ที่มีคุณภาพ แต่ยังช่วยลดต้นทุนในระยะยาว และเพิ่มความทนทานของฉลากหรือบาร์โค้ดให้ใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

ระบบการพิมพ์ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบหลัก คือ Direct Thermal และ Thermal Transfer ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบ และเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับงานจริง

การพิมพ์แบบ Direct Thermal คืออะไร?

การพิมพ์แบบ Direct Thermal เป็นระบบที่ใช้ความร้อนจากหัวพิมพ์กดลงบนกระดาษเคมีที่ไวต่อความร้อน ทำให้เกิดภาพหรือข้อความขึ้นโดย ไม่ต้องใช้หมึก (Ribbon)
✅ จุดเด่น

• ไม่ต้องใช้ริบบอน ลดค่าใช้จ่ายวัสดุสิ้นเปลือง
• เครื่องพิมพ์มีโครงสร้างเรียบง่าย ดูแลรักษาง่าย
• เหมาะสำหรับงานพิมพ์จำนวนมากและรวดเร็ว

⚠️ ข้อควรระวัง

• ฉลากมีอายุการใช้งานสั้น เสื่อมซีดเมื่อโดนแดด ร้อน หรือเสียดสี
• ไม่เหมาะกับงานที่ต้องเก็บไว้นานเกิน 6-12 เดือน

🎯 เหมาะกับงาน

• ฉลากพัสดุ / ขนส่ง
• ใบชั่งน้ำหนักสินค้า
• คิวบิล, ใบเสร็จร้านอาหาร
• ฉลากงานภายในโรงงานที่ใช้ระยะสั้น

การพิมพ์แบบ Thermal Transfer คืออะไร?

การพิมพ์แบบ Thermal Transfer ใช้ความร้อนถ่ายหมึก (Ribbon) ลงบนวัสดุฉลาก ทำให้ได้งานพิมพ์ที่ คม ชัด และทนทานมากกว่า

✅ จุดเด่น

• ทนต่อความร้อน แสงแดด ความชื้น และสารเคมีได้ดี
• ฉลากเก็บได้นานหลายปีโดยไม่ซีด
• เลือกชนิดริบบอนให้เข้ากับวัสดุได้ เช่น Wax, Resin, Wax-Resin

⚠️ ข้อควรระวัง

• ต้องใช้ริบบอน เพิ่มต้นทุนการพิมพ์
• ต้องเลือกวัสดุฉลากและริบบอนให้เหมาะสม

🎯 เหมาะกับงาน

• ฉลากสินค้าสำหรับขายปลีก
• ฉลากอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ระยะยาว
• ฉลากทนสารเคมี / ห้องเย็น / สินค้า Outdoor
• ป้ายทะเบียนทรัพย์สิน (Asset Tag)

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง

การเลือกระบบการพิมพ์ฉลากไม่ได้มีคำตอบที่ “ดีที่สุด” เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ ลักษณะงานและระยะเวลาที่ต้องการใช้งานฉลาก
หากยังไม่แน่ใจว่าควรใช้ระบบไหน สามารถบอกประเภทงานและสภาพแวดล้อมการใช้งานได้เลยค่ะ เดี๋ยวเราจะช่วยแนะนำแบบเฉพาะเคสให้ 😊

ติดต่อสอบถาม